ธรรมมะชนะใจ


 มีคำสอนโบราณว่า   "ถ้านกกินเป็นบุญ ถ้าคนกินเป็นทาน"  แล้วมันจะไม่ถูกขโมยเลยตลอดชีวิต     มันเป็นการทำบุญให้ทานไปทุกที เลยทำให้ชีวีตมีแต่ความสุข ด้วยจิตคิดดีตลอดนั้นเอง ถ้ามนุษย์คิดกันได้อย่างนี้ทุกคน ความโกรธก็จะหมดไป ไม่ต้องฆ่าสัตว์ไม่ต้องยิงสัตว์ เวรก็ระงับไป ความโกธรแค้นก็สิ้นสุด ความเป็นมนุษย์ก็ผุดขึ้นมา พระพุทธองค์ทรงสอนให้ฆ่ากิเลส เพราะฆ่าแล้วไม่บาป ยิ่งฆ่ามากเท่าไร บุญยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ฆ่ากิเลสทุกวันก็ได้บุญทุกวัน ทั้งนี้และทั้งนั้นต้องฆ่าให้ถูกวิธี จึงจะถูกกับโรคกับยา นั่นคือ

ให้ฆ่าความโกรธ ด้วยการไม่โกรธตอบ 
ฆ่าความชั่วด้วยความดี
ฆ่าความตระหนี่ด้วยการให้
 และฆ่าคนพูดพล่อยด้วยคำสัตย์ 

       มีกุฎมพีผู้หนึ่ง ไปฟังธรรมที่วัดในเวลากลางคืน  บุรุษทาสผู้หนึ่งมาบอกแก่กุำมพีว่า โจรทั้งหลายล้อมบ้านไว้หมดแล้ว กุฎมพีกล่าวว่า "ทรัพย์ของโจรโจรก็นำไป ไม่ใช่ของโจรโจรก็นำไปไม่ได้" แล้วฟังเทศนาต่อ
     บุรุษทาสก็รีบกลับมาสู่บ้าน เห็นโจรทั้งหลายขึ้นสู่เรือนก็รีบกลับไปบอกกุฎมพีว่า โจรทั้งหลายขึ้นไปบนเรือนแล้ว กุฎมพีกล่าวว่า "ทรัพย์ของเราก็อยู่กับเรา ทรัพย์ของโจรโจรก็เอาไป" แล้วฟังเทศนาต่อ
     บุรุษทาสก็รีบกลับมาสู่บ้าน เห็นโจรขนทรัพย์ลงจากบ้าน ก็รีบกลับไปบอก กุฎมพีว่า โจรขนทรัพย์ลงจากเรือนแล้ว กุฎมพีจึงว่า "ทรัพย์ของเราก็อยู่กับเรา ทรัพย์ของโจรก็โจรเอาไป" แล้วฟังเทศนาต่อ       บุรุษทาสก็รีบกลับสู่บ้าน แล้วบอกกับโจรว่า  ทรัพย์เหล่านี้เจ้าของเขาไม่ยินดีแล้ว ท่านจงนำไปตามปรารถนาเถิด โจรทั้งหลายได้ฟังเช่นนั้น ก็พากันสังเวชสลดใจ ทรัพย์นี้แม้เจ้าของเขาก็ไม่ยินดีแล้ว เราจะขนทรัพย์ไปทำอะไรเล่า จึงเอาทรัพย์ไปไว้บนเรือนดังเก่า แล้วพากันสู่วิหารได้ฟังพระสัทธรรมเทศนา สำเร็จมรรคผลตามวาสนาของตนที่ทำมา(มงคลทีปนีแปล หน้า ๓๔๖)

เมื่่อความสูญเสียเกิดขึ้นให้คิดว่า "ไม่ใช่ของเรา แล้วจะไม่เสียอะไรเลย"