วันวิสาขบูชา-ความสงบของใจเป็นพื้นฐานที่ตั้งของธรรมะ

  


วันนี้ เป็นวันวิสาขบูชา  ตรงกับวันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6  ในปีนี้นับเป็นอภิลักขิตกาลพิเศษ คือเป็นปีที่ครบ 2,600 พุทธศตวรรษ หรือ 2,600 ปี แห่งการอุบัติขึ้นของพระพุทธศาสนา  เป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา 3 เหตุการณ์ด้วยกัน คือ การประสูติตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธโคดม โดยทั้งสามเหตุการณ์ได้เกิด ณ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือวันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขะ (ต่างปีกัน) ชาวพุทธจึงถือว่า เป็นวันที่รวมเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ยิ่ง และเรียกการบูชาในวันนี้ว่า "วิสาขบูชา" ย่อมาจาก "วิสาขปูรณมีบูชา" แปลว่า "การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ" 
พระบุญตา ปสนุนจิตุโต ได้สอบถามธรรม ท่านอาจารย์ เทสก์ ว่า"เรื่องธรรมมะเป็นของมีอยู่ประจำในตัวของแต่ละบุคคล จะสูงต่ำหยาบหรือละเอียดก็มี ทำไมคนเรามองไม่เห็นธรรมนั้น เพราะเหตุใด"
ท่านอาจารย์ เทสก์ ได้ตอบสาธยายธรรมว่าเรื่องธรรมมะเป็นของบุคคลเห็นได้ยากเหมือนกัน ธรรมมะมีประจำไม่ใช่เฉพาะบุคคลเท่าน้น แท้จริงธรรมะเป็นของมีอยู่ทั้วหมดในโลกนี้ ที่ท่านเรียกว่า รูปธรรม นามธรรมนั่นเอง  ที่คนมองเห็นได้ยาก ก็เพราะพื้นฐานภูมิของใจมันยังมืดด้วยกิเลส ซึ่งไม่สามารถจะรับรองหรือรับเอาธรรมะนั้นไว้คิดพิจารณาค้นคว้า  ได้แก่ใจยังไม่สงบ 

ความสงบของใจเป็นพื้นฐานที่ตั้งของธรรมะธรรมมะเป็นความสงบ คือคนเราโดยมากหาธรรมมะมีแต่คิดส่งส่ายออกไปภายนอก ถึงรู้ธรรมะตามเถอะ รู้ตามปริยัติที่บัญญัติโดยตำรา หรือว่าพิสูจน์ตามหลักฐานหรือคำบาลีนั้นยังไม่ใช่ตัวธรรมมะที่แท้จริงเป็นแต่รู้ในตำราเราจะเอามาใช้ให้ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง ยังไม่ได้ก่อน ต่อเมื่อรู้ปัจจัตตังเฉพาะตนเท่านั้น จึงจะนำเอามาใช้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ฉะนั้นธรรมะจึงเป็นของเห็นได้ยาก
หากเรารู้ธรรมะแต่เพียงตำราด้วยสมองของเรา แต่ใจไม่มีความสงบ จึงเห็นธรรมได้ยาก

ขอขอบคุณหนังสือ ธรรมปฏิบัติ (สนทนาธรรมระหว่างอาจารย์กับศิษย์) โดย
พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์(เทสก์ เทสรังสี)